ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร?

เติมเต็มใต้ตาให้ดูเด็กขึ้น ลดใต้ตาดำ คล้ำและร่องลึกใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาจากการนอนดึก ภูมิแพ้หรืออายุที่เพิ่มขึ้นมีใต้ตาที่สดใส มีชีวิตชีวาไม่คล้ำและใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไป จะขึ้นกับปัจจัยใดบ้าง มาดูกันในบทความนี้เลย

 

ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ แตกต่างกันอย่างไร?
ฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันในหลายด้าน รวมถึงส่วนประกอบ ความหนาแน่นของโมเลกุล ความคงทน และผลลัพธ์หลังการฉีด ไปดูกันว่าฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจะราคาเท่าไหร่กันบ้าง
1. Juvederm
ราคา 15,000 - 20,000 บาทต่อซีซี
คุณสมบัติ: มีความหนืดสูง ทำให้เหมาะสำหรับการเติมเต็มพื้นที่ที่ต้องการความเรียบเนียนและคงรูป
ความคงทน: ประมาณ 12-18 เดือน
จุดเด่น: มีเทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ทำให้ฟิลเลอร์นุ่มนวลและกระจายตัวได้ดี
2. Restylane 
ราคา 12,000 - 18,000 บาทต่อซีซี
คุณสมบัติ: มีหลากหลายสูตรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น Restylane Lyft ที่ให้ความคงทนสูง และ Restylane Vital Light ที่เหมาะสำหรับการเติมเต็มพื้นที่เล็ก ๆ
ความคงทน: ประมาณ 9-12 เดือน
จุดเด่น: มีเทคโนโลยี NASHA ทำให้มีความคงตัวสูงและสามารถเติมเต็มได้อย่างแม่นยำ
3. Belotero
ราคา 10,000 - 15,000 บาทต่อซีซี
คุณสมบัติ: มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถฉีดได้ในชั้นผิวที่ตื้นและลึกต่างกัน
ความคงทน: ประมาณ 6-12 เดือน
จุดเด่น: มีสูตรที่บางเบาและสามารถเติมเต็มริ้วรอยเล็ก ๆ ได้อย่างละเอียด

การเลือกใช้ฟิลเลอร์จะใช้ยี่ห้อใดนั้นขึ้นกับงบประมาณของคนไข้และการแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของแต่ละยี่ห้อว่าควรใช้ยี่ห้อใดให้เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องฉีดและเข้ากับความต้องการของคนไข้

 

ฟิลเลอร์ในแต่ละคลินิกมีความแตกต่างกันเนื่องจากหลายปัจจัย ดังนี้
1. ยี่ห้อและคุณภาพของฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูงและยี่ห้อที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมักมีราคาสูงกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป
2. ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ แพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญสูงมักมีค่าบริการที่สูงขึ้น เพราะการฉีดฟิลเลอร์ต้องการทักษะและความรู้ที่เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัย
3. สถานที่ตั้งของคลินิก คลินิกที่ตั้งอยู่ในย่านที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น ใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจ มักมีราคาบริการที่สูงกว่าคลินิกที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
4. การบริการหลังการขาย คลินิกบางแห่งมีการบริการหลังการขายที่ครอบคลุม เช่น การติดตามผลหลังการฉีด การให้คำปรึกษาเพิ่มเติม หรือการให้บริการเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีผลต่อราคาที่สูงขึ้น
5. โปรโมชั่นและส่วนลด บางคลินิกอาจมีโปรโมชั่นหรือส่วนลดพิเศษในบางช่วงเวลา ทำให้ราคามีความแตกต่างกัน

 

ฟิลเลอร์ใต้ตาราคาแต่ละแห่งและยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันข้นกับปัจจัยที่เราได้ยกมา ซึ่งหากกลัวว่าจะเป็นของปลอมควรฉีดในราคาที่ไม่ถูกจนเกินไปและก่อนเข้ารับบริการควรเช็คคุณภาพมาตรฐานหรือรีวิวการเข้ารับบริการลูกค้าท่านอื่น ๆ ของคลินิกก่อนเสมอ