ออฟฟิศซินโดรม (เหมือน)ไม่อันตรายรึเปล่า

ในปัจจุบัน ด้วยพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเราที่เปลี่ยนไป ทำให้โรคออฟฟิศซินโดรมกลายเป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตที่ไม่ได้เกิดแค่กับคนทำงานอีกต่อไป แต่ยังมีการพบในกลุ่มที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ อาทิกลุ่มวัยรุ่นและเด็ก เพราะพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการใช้โทรศัพท์ แท็บเล็ต ทำให้ต้องนั่งท่าเดิม นั่งก้มหน้าเป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งออฟฟิศซินโดรมนี้ ไม่อันตรายจริงหรือเปล่านะ

โรคออฟฟิศซินโดรม อาการของโรคนี้ ส่วนมากที่พบกันคือ มีอาการปวด กล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นคอ บ่า ไหล่ หลัง หรืออาการชามือ ชาเท้า รวมไปถึงอาการปวดศีรษะ ปวดไมเกรน ปวดตา  ซึ่งด้วยอาการเหล่านี้ทำให้ใครหลายคนมองว่าออฟฟิศซินโดรมนั้นไม่อันตราย เพราะหากเป็นแรกๆ บางคนเป็นๆ หายๆ หรือทานยาแล้วหาย แต่ออฟฟิศซินโดรมอันตรายกว่าที่เราคิด

โรคออฟฟิศซินโดรม อันตรายกว่าที่เราคิด เพราะหากเรามองข้ามการรักษาเรื่องของออฟฟิศซินโดรมไป อาการเหล่านี้อาจจะเรื้อรัง จนในบางครั้งเพียงแค่การทานยาหรือการปรับพฤติกรรมก็ไม่สามารถบรรเทาอาการได้ จนต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ซึ่งในการรักษานั้นมีตั้งแต่การทำกายภาพบำบัด การผ่าตัด การฝังเข็มซึ่งจะทำให้เราเสียทั้งเงินและเวลา นอกจากนี้ อาการของออฟฟิศซินโดรมยังสามารถเป็นต้นเหตุของโรคร้ายแรงอื่นๆ ได้ อาทิ เสี่ยงต่อการเกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังคด และแขนขาอ่อนแรง ซึ่งหากเกิดโรคเหล่านี้บอกได้เลยว่าได้รักษากันยาวและในบางครั้งเราก็อาจจะไม่สามารถกลับไปเคลื่อนไหวได้ปกติเหมือนอย่างที่เราเคยทำ
ดังนั้นถึงแม้ว่าอาการของโรคออฟฟิศซินโดรมที่ใครหลายคนกำลังเป็นอยู่นั้นอาจจะเหมือนไม่อันตราย แต่อันที่จริงแล้วโรคนี้ถือได้ว่าอันตรายกว่าที่เราคิดและเป็นสัญญาณเตือนให้เรากลับมาใส่ใจ ดูแลตัวเองให้มากขึ้นเริ่มง่ายๆ จากตัวเองด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ ก่อนที่โรคออฟฟิศซินโดรม ที่เหมือนจะไม่อันตราย นั้นสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของเรา
 

หากผู้อ่านท่านใดมีความประสงค์อยากเข้ารับการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ H8 Clinic คลินิกเฉพาะทางด้านรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมที่ช่วยให้คุณหายปวดกล้ามเนื้อ ด้วยนวัตกรรมการรักษาที่ทันสมัย รักษาอย่างตรงจุด รู้ชัดถึงสาเหตุต้นตอของอาการปวด ติดตามทุกเคสหลังการรักษา เพื่อให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยไร้อาการปวดจากออฟฟิศซินโดรมอีกค่ะ