ผมร่วงเกิดจากสาเหตุอะไร? ใช้แชมพูลดผมร่วงแก้ปัญหาได้จริงไหม

ผมร่วงเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนต่างก็กังวลเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยปกติแล้วผมของคนเราจะร่วงประมาณวันละ 50 – 100 เส้น เพื่อที่จะได้ผลัดให้ผมใหม่งอกขึ้นมา แต่ในกรณีผมร่วงมากกว่านั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดปกติ และอาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น จากสภาพอากาศ มลพิษ ฝุ่น ควัน หรือแม้แต่สารเคมีต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งคุณอาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่สามารถที่จะฟื้นฟูด้วยยาสระผมแก้ผมร่วง แต่ก่อนที่จะเลือกใช้ยาสระผมนั้น เรามาดูสาเหตุของอาการผมร่วงกันก่อนว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง

สาเหตุผมร่วงเกิดจากอะไรได้บ้าง

1. ผมร่วงที่เกิดจากกรรมพันธุ์
ปัญหาผมร่วงหลายคนอาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ ที่สามารถถ่ายทอดกันได้ตามสายเลือดของคนในครอบครัว 

2. ฮอร์โมน
ในการเปลี่ยนแปลงจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เส้นผมอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่าย แถมเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนทำให้ผมใหม่เจริญเติบโตได้ช้า

3. อาหารการกิน
อาหารการกินก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่สามารถทำลายเส้นผมของคุณได้ ซึ่งอาหารบางชนิดเมื่อกินในปริมาณที่มาก ๆ ก็อาจจะเป็นตัวการทำลายเส้นผมของคุณได้ หรือกินน้อยไปเส้นผมก็อาจจะได้สารอาหารที่ไม่เพียงพอทำให้เส้นผมของคุณอ่อนแอเป็นอย่างมาก

4. ยาปฏิชีวนะต่าง ๆ
ในการรับประทานยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน ๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมคุณร่วงได้ โดยเฉพาะกลุ่มยารักษาเฉพาะโรค เช่น มะเร็ง ไทรรอยด์ เป็นต้น เมื่อกินไปในระยะเวลาหนึ่งก็อาจจะทำให้ผมร่วงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

5. สภาวะความเครียด
ปัจจุบันเรามักจะเจอเรื่องเครียดต่าง ๆ มากมาย มีทั้งดีและปะปนกันไป ทำให้เมื่อเกิดเครียดมาก ๆ ก็จะทำให้ผมร่วง พร้อมทั้งยั้งทำให้รากผมหยุดการเจริญเติบโตและทำให้รากผมไม่แข็งแรงผมร่วงได้ง่าย การเลือกยาสระผมแก้ผมร่วงก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถรักษาผมร่วงได้

ผมร่วงสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย สาเหตุที่เรานำมายกตัวอย่างนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เป็นตัวทำลายเส้นผมของเรา ยังมีความเสี่ยงผมร่วงอีกมากที่หลายคนจะต้องเผชิญ การเลือกแชมพูลดผมร่วง เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะสามารถกู้ผมร่วงเสียให้กับคืนมาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากใครที่กำลังประสบปัญหาอยู่ลองหามาใช้กันดูรับรองเห็นผลอย่างแน่นอน อย่างเช่นผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมจาก Drmokan เวชสำอางดูแลรักษาเส้นผมจากประเทศญี่ปุ่น ที่ช่วยลดอาการผมร่วงผมบางได้อย่างตรงจุด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dr-mokan.com/